จังหวัดเชียงใหม่มีคำขวัญว่า :
"ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่าบุรีรัมย์"
ปรับมาใช้ให้เข้ากับจังหวัดบุรีรัมย์เป็น :
"พนมรุ้งเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่าบุรีรัมย์"
พนมรุ้งเป็นศรี : ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นโบสถ์พราหมณ์ลัทธิไศวะ ตั้งอยู่บนภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว มีการบูรณะก่อสร้างต่อเนื่องกันมาหลายสมัย ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ถึงพุทธศตวรรษที่ 17 และในพุทธศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมได้หันมานับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นวัดมหายาน ในช่วงแรกปราสาทหินพนมรุ้ง สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพู นามพนมรุ้ง นั้น มาจากภาษาเขมร คำว่า วนํรุง แปลว่า ภูเขาใหญ่ และในวันที่ 3-5 เมษายน และ 8-10 กันยายน ของทุกปี ดวงอาทิตย์ขึ้น ส่องแสงลอดประตูทั้ง 15 บาน ช่อง นอกจากนี้ตราประจำจังหวัดและตราประจำสโมสรฟุตบอลจังหวัดบุรีรัมย์ยังเป็นรุปปราสาทพนมรุ้งอีกด้วย (อำเภอเฉลิมพระเกียรติบุรีรัมย์)
ประเพณีเป็นสง่า : จังหวัดบุรีรัมย์ มีประเพณีต่างๆ มากมายแบบอีสานล่างซึ่งประเพณนั้นค่อนข้างแตกต่างจากอีสานตอนบน ประเพณีในจังหวัดบุรีรัมย์ เช่น ประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติบุรีรัมย์ ประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทจำลองเขากระโดง อ.เมืองบุรีรัมย์ ประเพณีแข่งเรือยาวจังหวัดบุรีรัมย์ อ.สตึก ประเพณีมหกรรมว่าวอีสานบุรีรัมย์ อ.ห้วยราช งานนมัสการพระเจ้าใหญ่ที่วัดหงษ์ อ.หนองหงส์ งานเครื่องเคลือบพันปีประเพณีบ้านกรวด อ.บ้านกรวด งานดอกฝ้ายคำบาน อ.เฉลิมพระเกียรติบุรีรัมย์ มหกรรมมวยไทยเทศกาลกินไก่ไหว้เจ้าพ่อขุนศรี อ.หนองกี่ งานวันหอมแดง แข่งเรือยาว ชาวหนองหงส์ อ.หนองหงส์ ประเพณีบุญบั้งไฟ อ. หนองหงส์ ฯลฯ (ที่จริงทุกอำเภอมีงานประเพณี)
บุปผชาติล้วนงามตา : ถ้าพูดถึงแหล่งดอกไม้เมืองหนาวสวยๆ ในจังหวัดบุรีรัมย์ คือที่อุทยานดอกไม้เพลาเพลิน (อ่านว่า เพ-ลา เพลิน) ที่ อ. คูเมือง นอกจากนี้ก็มีอุทยานแห่งชาติตาพระยา อ.บ้านกรวด ก็มีลานดอกกระเจียว หรือไปชมงานดอกฝ้ายคำบาน ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ในช่วงเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปี บริเวณปราสาทพนมรุ้ง อ. เฉลิมพระเกียรติ บ่อน้ำปราสาทพนมรุ้ง อ. เฉลิมพระเกียรติบุรีรัมย์ และบ่อน้ำปราสาทเมืองต่ำ อ.ประโคนชัย อ่างเก็บน้ำห้วยตลาด อ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก อ. เมืองบุรีรัมย์ ต่างปลูกดอกบัวอย่างสวยงาม
นามล้ำค่าบุรีรัมย์ : บุรีรัมย์ มีความหมายว่า "เมืองแห่งความรื่นรมย์" ปัจจุบันบุรีรัมย์เป็น 1 ในเมืองต้องห้ามพลาด ในนาม "เมืองปราสาทสองยุค" ด้วยว่ามีปราสาทยุคเดิม และปราสาทยุคใหม่คือปราสาทสายฟ้า นั่นเอง (เกือบทุกอำเภอในบุรีมย์มีปราสาท)