ประวัติมะละกอ มะละกอเป็นไม้ล้มลุกมิใช่ไม้ยืนต้น มะละกอมีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ใน ปี ค.ศ. 1526 ชาวสเปนได้เดินทางมาแถบทวีปอเมริกา ชาวพื้นเมืองแถบทวีปอเมริกาเรียกมะละกอว่า อะบาไบ (Ababai) ชาวสเปนได้เรียกเพี้ยนไปเป็น Papaya และในภาษาอังกฤษก็เรียกว่า Papaya ไม่ได้มาจากคำว่า “ป้าป้าอย่า” แต่อย่างใด (หัวเราะ) ช่วงประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 ชาวสเปนและโปรตุเกสได้นำมะละกอมาปลูกในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าทางสยามได้นำมะละกอ มาจากเมืองมะละกา คาดว่ามะละกอคงมาจากคำว่ามะละกา นอกจากนี้มะละกอยังมีปรากฏในจดหมายเหตุเดอ ลาลูแบร์อีกด้วย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวญี่ปุ่นในสยาม ต่างชื่นชอบมะละกอของสยามเป็นอย่างมาก คราวหน้าจะลงเรื่องประวัติส้มตำภาพจดหมายเหตุเดอ ลาลูแบร์ ฉบับภาษาอังกฤษ
หน้า 171 มีการกล่าวถึง มะละกอสรรพคุณนำผลดิบและผลสุกมาต้มกินเป็นยา ขับน้ำดี น้ำเหลือง บำรุงน้ำนม ขับพยาธิ รักษาโรคริดสีดวงทวาร ผลสุกเป็นยาแก้ท้องผูกที่วิเศษสุดๆ ถ่ายคล่องเป็นยาระบายได้อย่างดีเยี่ยม นำเนื้อสุกมาปั่น แล้วพอกหน้าทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออกใบหน้าจะชุ่มชื้นขึ้น นอกจากนี้มะละกอยังมี มีคุณค่าทางโภชนาการอาหารอย่างมากมาย
มะละกอมีเกลือแร่ และวิตามินมาก มีคุณค่าทางอาหารไม่น้อย แคลเซียมในมะละกอช่วยป้องกันฟันผุ วิตามินซีช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน วิตามินเอช่วยในบำรุงสายตาและระบบประสาท และยังมีสารอาหารอื่นๆ อีกมาก
ขอขอบพระคุณรูปภาพและข้อมูลจากลาฟลอร่าเล่ม 3
de.wikipedia.org
es.wikipedia.org
th.wikipedia.org
www.fwdder.comwww.kroobannok.comwww.measwatch.orgภาพดอกมะละกอตัวผู้ ภาพดอกมะละกอตัวเมีย