วัฒนธรรมและชาวต่างชาติในสยาม
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
วัฒนธรรมและชาวต่างชาติในสยาม
รวบรวมข้อมูลวัฒนธรรมและชาวต่างชาติ
บ้าน
Latest images
ค้นหา
คำที่จะค้นหา
Display results as :
ตอบ
หัวข้อ
Advanced Search
สมัครสมาชิก(Register)
เข้าสู่ระบบ(Log in)
วัฒนธรรมและชาวต่างชาติในสยาม
::
พืชพรรณจากต่างแดน
ประวัติแตงโม หายากในกูเกิ้ล หาทีไรเจอแต่เป็นชื่อคบุคคลผู้หนึ่ง
ผู้ตั้ง
ข้อความ
Admin
Admin
จำนวนข้อความ
:
448
Join date
:
20/10/2012
ที่อยู่
:
ถนนเจริญยาก ไม่มีรถเมล์ แถมอยู่ที่ Landlocked
เรื่อง: ประวัติแตงโม หายากในกูเกิ้ล หาทีไรเจอแต่เป็นชื่อคบุคคลผู้หนึ่ง
Wed Nov 14, 2012 10:01 pm
ประวัติแตงโม
ถิ่นกำเนิด ดั้งเดิมของแตงโมอยู่ในเขตร้อนทางใต้ของทวีปแอฟริกาแถบทะเลทรายทะเลทรายคาลาฮารี แตงโมจึงคล้ายกับน้ำเต้าในด้านถิ่นกำเนิดและการแพร่กระจายไปทั่วโลก ตั้งแต่ยุคโบราณก่อนประวัติศาสตร์ ในประวัติศาสตร์อียิปต์ พบข้อความบันทึกเกี่ยวกับแตงโม ชาวจีนเริ่มปลูกแตงโมที่ซินเจียงในสมัยราชวงศ์ถัง สำหรับประเทศสยามคงปลูกแตงโมมานับร้อยนับพันปีเช่นกัน เพราะชาวสยามในอดีตติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันมานานแล้ว มีผู้สันนิษฐานว่าไทยรับแตงโมมาจากจีนชาวทางใต้จึงเรียกแตงจีน มีการบันทึกเกี่ยวกับแตงโมในจดหมายเหตุเดอลาลูแบร์ ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และในพงศาวดารสมัยกรุงศรีอยุธยามีเรื่องราวเกี่ยวกับแตงโมปรากฏอยู่ในรัชสมัยสมเด็จพระเพทราชาเรียกว่า “ผลอุลิต” (คำสุภาพของแตงโมคือผลอุลิต) ซึ่งเป็นราชาศัพท์มาจากภาษาเขมร ส่วนในหนังสืออักราภิธานศรับท์ พ.ศ. 2416 เรียกทั้งแตงโมและปูลิต (คงกลายมาจากอุลิต) แม้แต่ในตำรา แม่ครัวหัวป่าก์ ของ ท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงษ์ ก็เรียกชื่อตำรับอาหารว่า “ผัดปลาแห้งแตงอุลิต” เช่นเดียวกัน มีเรื่องราวของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยท่านหนึ่งเกี่ยวข้องกับความเชื่อนี้ เรื่องของสมเด็จเจ้าแตงโม ในแบบเรียนชั้นมัธยมในอดีต สมเด็จเจ้าแตงโมหรือพระสุวัณมุนี เป็นพระภิกษุในสมัยกรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเสือ มีชื่อเสียงว่าเป็นผู้มีสติปัญญาสูงยิ่ง ประวัติในวัยเด็กที่เกี่ยวข้องกับแตงโมคือ ช่วงเป็นเด็กอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรีนั้นท่านยากจน วันหนึ่งเมื่อเล่นน้ำกับเพื่อนๆในแม่น้ำ เห็นเปลือกแตงโมลอยน้ำมาจึงคว้าเอาลงไปแอบกินใต้น้ำ เพื่อนๆจึงเรียกชื่อว่า “เจ้าแตงโม” มาตั้งแต่นั้น แสดงว่าท่านชอบกินแตงโมมาตั้งแต่เด็ก แตงโมเป็นผลไม้ยอดนิยมของคนชาวสยามและชนชาติอื่นๆ มานับพันปีจนถึงปัจจุบัน คนไทยมีพันธุ์แตงโมที่นิยมกันมากเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เช่น แตงโมบางละมุง เมื่อราว 100 ปีก่อน มาเป็นแตงโมบางเบิด หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร นำพันธุ์แตงโมมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อราว 70 ปีที่แล้วมา จากนั้นก็มาถึงยุคแตงหมอน (ชาล์ลตัน เกรย์) ผลยาว หัวท้ายมนคล้ายหมอนข้าง และแตงดำ (ชูก้าร์ เบบี้) ผลกลม เปลือกสีเขียวเข้มเกือบดำ มีเมื่อราว 40 ปีก่อน จนกระทั่งถึงยุค แตงโมจินตหรา ซึ่งเอาชื่อมาจากดาราสาวสวยในปัจจุบัน แตงโมก็ยังไม่เสื่อมคลายความนิยมแม้บางครั้งจะถูกข่าวลือที่รุนแรงบ่อนทำลายขนาดเชื่อว่า หากกินแตงโมแล้วจะทำให้เป็นโรคจู๋ (อวัยวะเพศของผู้ชายจะหดหายไป) เมื่อราวปี พ.ศ. 2519 มีผลให้คนไทยไม่ค่อยกล้ากินแตงโมไปพักหนึ่ง แต่ต่อมาไม่นานคนไทยก็กลับมานิยมกินแตงโมกันมากเหมือนเดิมหรือมากขึ้นกว่าเดิม
ที่มาของคำว่าแตงโม
คำว่าแตงโมในภาษาไทยภาคกลางนั้น ผู้รู้ทางภาษาท่านหนึ่ง (โสมทัต เทเวศน์) อธิบายว่า หมายถึงแตงขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นแตงที่มีผลขนาดใหญ่กว่าแตงชนิดอื่นๆ นับว่าเป็นชื่อที่เหมาะสมมาก คนไทยคงนิยมกินเนื้อแตงโมเป็นผลไม้และเมล็ดแตงโมเป็นของขบเคี้ยวกันต่อไปอีกนานเท่านาน
ประโยชน์ของแตงโม
แตงโมมีสารที่เรียกว่า lycopene ที่มีแอนตี้ออกซิเดนท์ และช่วยในการบำรุงหัวใจ รวมถึงมะเร็ง สารนี้มีอยู่มากในมะเขือเทศเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกันแล้ว แตงโมมีมากกว่าถึง 40 % ถึงแตงโมจะหวานแต่ก็มีวิตามินซี การดื่มน้ำแตงโมช่วยเพิ่มเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายใช้ในการสร้างวิตามินเอ และการมีวิตามินเอมากๆ ก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ แตงโมเป็นผลไม้ที่มี citrulline อยู่มาก สารตัวนี้จะช่วยในการรักษาแผนได้เร็ว อย่าดื่มแต่น้ำแตงโม ให้กินเนื้อมันเข้าไปด้วย โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นสีขาวอยู่ลึกลงไป แม้รสชาติจะไม่หวาน แต่มีประโยชน์ แตงโมเต็มไปด้วยโพแทสเซียม ที่จะช่วยควบคุมอัตราความดันโลหิต เรียกว่ากินแล้วจะอารมณ์ดี ยิ่งกินแบบเย็นๆ ยิ่งสบายใจ ในแตงโมมีแคลอรี่แค่ 96 แคลอรี่เท่านั้น และการกินแตงโมที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำ ทำให้เราอิ่มได้เร็ว และไม่ต้องทานอาหารอื่นอีก
ขอขอบพระคุณรูปภาพและข้อมูลจาก
www.dek-d.com
www.kapook.com
www.panyathai.or.th
www.malware-site.www
รูปดอกแตงโม
Like
Dislike
ประวัติแตงโม หายากในกูเกิ้ล หาทีไรเจอแต่เป็นชื่อคบุคคลผู้หนึ่ง
หน้า
1
จาก
1
Permissions in this forum:
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
วัฒนธรรมและชาวต่างชาติในสยาม
::
พืชพรรณจากต่างแดน
วัฒนธรรมและชาวต่างชาติในสยาม
::
พืชพรรณจากต่างแดน
ไปที่:
เลือก forum
|
|--วัฒนธรรมต่างชาติด้านเครื่องแต่งกาย
|--ศาสนาและความเชื่ออิทธิพลจากต่างแดน
|--ดนตรี-นาฏศิลป์ไทยอิทธิพลจากต่างแดน
|--วรรณกรรมและวรรณคดี จากต่างแดน
|--งานศิลปะ หัตถรรม ข้าวของ เครื่องใช้ อิทธิพลจากต่างแดน
|--สถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างอิทธิพลต่างแดน
|--งานเทศกาล ประเพณีอิทธิพลต่างแดน
|--พืชพรรณจากต่างแดน
|--สัตว์จากต่างแดน
|--อาหาร เครื่องดื่ม ขนมจากต่างแดน
|--อิทธิพลของการศึกษาและวิทยาการจากต่างแดน
|--ยานพาหนะจากต่างแดน
|--กีฬาและการละเล่นจากต่างแดน
|--อาวุธจากต่างแดน
|--ชุมชนชาวต่างชาติในปัจจุบัน
|--วัฒนธรรมที่ไม่เป็นวัตถุอื่นๆ อย่างกิริยามารยาท
|--10 อันดับต่างชาติในสยามอื่นๆ
|--ต่อไปคือวัฒนธรรมไทยในต่างแดน
| |--อาหารไทยในอิทธิพลต่างแดน
| |--อิทธิพลศิลปะสถาปัตยกรรมไทยในต่างแดน
| |--ยานพาหนะไทย ที่คนไทยคิด
| |--สัตว์ประจำถิ่นไทย/สัตว์ค้นพบครั้งแรกที่ไทย
| |--พืชประจำถิ่นไทย/พืชที่ค้นพบครั้งแรกในไทย
| |--สิ่งประดิษฐ์วิทยาการอื่นๆ ของชาวไทย
|
|--ตัวเก็บวัฒนธรรมจังหวัด
| |--หวงห้ามๆ เหอเหอ ของวอร์และกลุ่มศาสนา
|
|--ภาคผนวก
| |--ภาคผนวกนะ
| |--รวมคำขวัญจังหวัดจากโครง
| |--รวมคลิปฟัง
|
|--วัฒนธรรมไทยในต่างแดน
|--ดนตรีนาฏศิลป์ไทยไปต่างแดน