Admin Admin
จำนวนข้อความ : 448 Join date : 20/10/2012 ที่อยู่ : ถนนเจริญยาก ไม่มีรถเมล์ แถมอยู่ที่ Landlocked
| เรื่อง: ฉลองครบรอบ 111 ปี มะม่วงหิมพานต์สู่สยาม Sun Nov 11, 2012 7:46 pm | |
| ภาพผลมะม่วงหิมพานต์ที่สุกพร้อมที่จะเก็บประวัติมะม่วงหิมพานต์มะม่วงหิมพานต์มีถิ่นกำเนิดในแถบทวีปอเมริกาใต้พบตั้งแต่เม็กซิโก เปรู บราซิล ส่วนการนำเข้ามานั้น สันนิฐานว่า พระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอซิมบี ณ ระนอง) ได้นำเข้า มาจากอินเดียบ้างก็ว่ามาจากมาเลเซีย เมื่อปี พ.ศ. 2444 ซึ่งเข้าช่วงพร้อมๆ กับยางพารา หลังจากนั้นได้มีผู้นำเข้ามาอีกหลายครั้งจากอินเดีย ไลบีเรีย เป็นต้น โดยกรมวิชาการเกษตร (กรมกสิกรรมเดิม) เป็นผู้ทดลองศึกษาค้นคว้าคัดเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถปลูกให้ได้ผลผลิตสูงในประเทศไทย ส่วนคำว่ากาหยู (ภาษาใต้ถิ่นระนอง) ที่หมายถึงมะม่วงหิมพานต์มาจากคำว่า cashew (แคชชู) ในภาษาอังกฤษที่แปลว่ามะม่วงหิมพานต์นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีคำขวัญของจังหวัดระนองกล่าวถึงมะม่วงหิมพานต์ว่า
"คอคอดกระ ภูเขาหญ้า กาหยูหวาน ธารน้ำแร่ มุกแท้เมืองระนอง"มะม่วงหิมพานต์สามารถลบรอยสักได้จากเม็ดของ มะม่วงหิมพานต์ แต่ไม่ใช่ เมล็ดด้านในผล เป็นเม็ดที่ห้อยติดอยู่ใต้ผล ทาบริเวณรอยสักที่ต้องการจะลบรอยสักออก ให้ทิ้งไว้ไม่ต้องล้างน้ำ สีที่สักบนผิวหนังจะเลือนหาย ถ้าสีไม่ฝังลึกทำเพียงครั้งเดียวจะหายหมด หากสีฝังลึกทิ้งระยะเวลา หรือเว้นการทำ 2-3 วัน ทำอีกครั้งรอยสักจะหมดไม่เหลือให้เห็นอีก แต่ทว่าวิธีการนี้ยังไม่ทราบกันแพร่หลายเพราะว่ามะม่วงหิมพานต์เพิ่งเข้ามาเมืองไทยไแค่ 111 ปี เองประโยชน์อื่นๆใบสด นำมาบดให้ละเอียด ใช้พอกแก้โรคผิวหนัง แผลไฟไหม้ น้ำร้องลวก หรือใช้ใบสด เอามาเผาไฟใช้สูดดม รักษาโรค เกี่ยวกับการไอ และเจ็บคอ ยางจากลำต้น สามารถนำมาทาบ้านกันปลวก ยางจากผล นำมาทากัดหูด ตาปลากลากเกลื้อน โรคเท้าช้าง ผล ใช้เป็นแก้โรคเลือดออกตามไรฟันแก้ ท้องร่วง หรือใช้น้ำที่คั่นจากผล ดื่มเป็นยาขับปัสสาวะ แก้อาเจียนหรือแผลในปาก เมล็ด คั่วโรยเกลือ ทานเป็นยาแก้อาการบวมน้ำ ขับปัสสาวะ หรือใช้สกัดเอาน้ำมันมาทาแก้กลากเกลื้อน เนื้องอก โรคผิวหนัง โรคเรื้อน ทั้งนี้ หากจะใช้ยางจากผล ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะยางจากผลจะมีพิษภาพผลมะม่วงหิมพานต์จากguru.google.co.th ranong.most.go.th th.wikipedia.org www.cashewthai.com | |
|