ประวัติ มัสมั่นเป็นแกงที่มาจากเปอร์เซีย (อิหร่าน) โดยชาวเปอร์เซีย ที่เข้ามาค้าขายในรัชสมัยพระนารายณ์มหาราช บ้างก็ว่าเป็นอาหารประเภทแกงที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารมลายู แกงมัสมั่นเป็นแกงที่นิยมรับประทานสำหรับผู้ชอบกลิ่นเครื่องเทศที่โดดเด่น ชาวไทยมุสลิมเรียกแกงชนิดนี้ว่า ซาละหมั่น แกงมัสมั่นแบบสยามออกรสหวานในขณะที่ตำรับดั้งเดิมของชาวมุสลิมออกรสเค็มมัน ชาวไทยมุสลิมเรียกแกงชนิดนี้ว่า ซาละหมั่น แกงมัสมั่นแบบสยามจะออกรสหวาน ส่วนตำรับดั้งเดิมของชาวมุสลิมออกรสมันเค็ม แกงมัสมั่นแบบชาวมุสลิมปักษ์ใต้ ต่างจากการปรุงแกงมัสมั่นของชาวไทยภาคกลางคือ จะไม่ทำเป็นน้ำพริกแกงมัสมั่น แต่จะผสมลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกป่นอินเดียและพริกไทยป่นไว้เป็นผงเครื่องแกง จากนั้นจึงนำลงไปผัดกับน้ำมันที่เจียวหัวหอมแล้ว ส่วนแกงมัสมั่นแบบมลายู-ชวา จะใส่กานพลู อบเชย ลงไปผัดกับน้ำมันและหอมแดงจนหอม แล้วจึงใส่พริกป่นอินเดีย ลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกไทยป่นลงไปผัดให้เข้ากัน นอกจากนั้นยังใส่มะพร้าวคั่ว ผงขมิ้น ดอกไม้จีนและหน่อไม้จีนด้วย
แกงมัสมั่นในวรรณคดีจากกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานของ ร. 2 มีคำกล่าวว่า
"มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่า รสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ ใฝ่ฝันหา "
จากth.wikipedia.org
www.pantip.comwww.panyathai.or.th